ลูกค้าที่ใช้บริการกับเรา

รับปูปาร์เก้  095 481 4459 รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ เป็นงานใช้ทักษะและความชำนาญโดยช่างปูปาร์เก้ที่มีประสบการณ์ บริการรับปูปาเก้ทั่วไทย

เกี่ยวกับเราและงานบริการของเรา

รับปูปาร์เก้ รับขัดพิ้นไม้ปาร์เก้ รับปูปาเก้

รับปูปาร์เก้ รับขัดพิ้นไม้ปาร์เก้ รับปูปาเก้

      หากคุณกำลังมองหาช่างปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ปาเก้ให้กับบ้านที่อยู่อาศัยของคุณๆ มาถูกที่แล้วครับ เราผู้ให้บริการรับปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ ด้วยทีมช่างที่มีความชำญการด้วยประการณ์มากว่า 10 ปี ที่สั่งสมมา เรามีเครื่องมือที่ทันสมัย มีพื้นไม้ปาร์เก้ให้คุณได้เลือกมากมายหลายชนิด ส่วนเรื่องราคาเป็นไปตามราคามาตราฐานทั่วไป  ลูกค้าที่เรียกใช้บริการจากเราจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน "ปู ขัด สะอาด เรียบร้อย ไม่ทิ้งงาน ด้วยบริการที่ประทับใจ" ติดต่อสอบถามราคากับเราได้เลย  

บทความนี้คือขี้นตอนและกระบวนการการรับงานรับปูปาร์เก้ 

วิธีการกระบานการ รับปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ แบบเป็นขั้นเป็นตอน

วิธีการกระบานการ รับปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ แบบเป็นขั้นเป็นตอน

1. การสำรวจหน้างานและให้คำปรึกษา (Site Inspection and Consultation)

   - ทีมงานรับปูปาร์เก้จะเดินทางไปสำรวจหน้างานเพื่อประเมินสภาพพื้นและพื้นที่ที่ต้องการปูปาร์เก้

   - ให้คำปรึกษาและแนะนำประเภทของปาร์เก้ที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณของลูกค้า

2. การวางแผนและเสนอราคารับงานปูปาร์เก้ (Planning and Quotation)

   - จัดทำแผนงานที่ละเอียดและเป็นระบบ

   - จัดทำใบเสนอราคาที่ครอบคลุมรายละเอียดของวัสดุและค่าแรง

   - ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน

3. การเตรียมพื้นผิวงาน รับปูปาร์เก้  (Surface Preparation)

   - ทำความสะอาดพื้นผิวเดิมและทำการตรวจสอบว่ามีความเรียบและแห้งพอสำหรับการปูปาร์เก้หรือไม

   - แก้ไขปัญหาพื้นผิวที่ไม่เรียบหเป็นลูกคลื่น

 4. การติดตั้งปาร์เก้ (Parquet Installation)

   - ใช้กาวหรือวิธีการติดตั้งที่เหมาะสมตามประเภทของปาร์เก้

   - ติดตั้งปาร์เก้โดยทีมงานมืออาชีพด้วยความละเอียดอ่อนและแม่นยำ

   - ตรวจสอบความสม่ำเสมอและความเรียบร้อยของการติดตั้ง

 5. การขัดและเคลือบพื้นผิว (Sanding and Finishing)

   - ขัดพื้นปาร์เก้เพื่อให้ผิวเรียบและเนียน

   - ทำการเคลือบพื้นผิวด้วยสารเคลือบที่มีคุณภาพสูง เพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มความสวยงาม

   - อาจมีการเคลือบหลายชั้นตามความต้องการของลูกค้า

 6. การตรวจสอบคุณภาพงาน รับปูปาร์เก้ (Quality Inspection)

   - ตรวจสอบคุณภาพการติดตั้งและการเคลือบพื้นผิวอย่างละเอียด

   - แก้ไขข้อบกพร่องที่พบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 7. การทำความสะอาดและส่งมอบงาน (Cleaning and Handover)

   - ทำความสะอาดพื้นที่หลังจากการติดตั้งและเคลือบเสร็จสิ้น

   - ส่งมอบงานให้ลูกค้าตรวจสอบ

8. การดูแลหลังการขาย (After-Sales Service)

   - ให้คำแนะนำในการดูแลรักษาพื้นปาร์เก้โดยทีมช่างรับปู้ปาร์เก้

   - รับประกันงานและบริการหลังการขายในระยะเวลาที่กำหนด

   - พร้อมให้บริการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาตามที่ลูกค้าต้องการ

สรุป:นี้คือรายละเอียดในการรับงานปู้ปาร์เก้ ที่มีการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อนำเสนองานพร้อมเสนอราคาให้กับลูกค้า อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกมั่นใจ ความพอใจให้ลูกค้า และเพิ่มโอกาศที่จะได้งานนั้นค่อนข้างสูง.

บทความนี้คือขี้นตอนและกระบวนการ รับงาน รับปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้

งานรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ งานที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์

งานรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ งานที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์

1. การสำรวจหน้างานและให้คำปรึกษา จากทีมช่างรับงานขัดพื้นไม้ปาร์เก้(Site Inspection and Consultation)

   - ในการรับงานขัดพื้นไม้ปาร์เก้นั้น ทีมงานจะเดินทางไปสำรวจหน้างานเพื่อประเมินสภาพพื้นไม้ปาร์เก้

   - ให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการขัดและเคลือบพื้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นและความต้องการของลูกค้าโดยช่างรับปูปาร์เก้

2. การเตรียมพื้นผิว (Surface Preparation)

   - ทำความสะอาดพื้นผิวไม้ปาร์เก้เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก

   - ตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องพื้นผิว เช่น รอยแตกร้าวหรือเป็นหลุม ผิวพื้นไม้ปาร์เก้เรียบไหม

3. การขัดพื้นไม้ปาร์เก้ (Sanding)

   - ใช้เครื่องมือขัดพื้นไม้ปาร์เก้ที่หมาะสมกับประเภทของไม้

   - ขัดพื้นไม้ด้วยกระดาษทรายที่มีความหยาบต่างๆ เริ่มจากหยาบไปยังละเอียดเพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียน

   - ขัดบริเวณขอบและมุมที่เครื่องขัดขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเครื่องขัดขนาดเล็กหรือมือ

4.การตรวจสอบและแก้ไขงาน รับปูปาร์เก้ (Inspection and Repair)

   - ตรวจสอบพื้นไม้ปาร์เก้หลังจากขัดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยขีดข่วนหรือข้อบกพร่องที่มองเห็นได้

   - ทำการแก้ไขปัญหาที่พบเพิ่มเติม เช่น เติมเต็มร่องหรือรอยแตกร้าว

 5. การทำความสะอาดพื้นผิว (Surface Cleaning)

   - ทำความสะอาดพื้นผิวอีกครั้งเพื่อกำจัดฝุ่นและเศษไม้ที่เกิดจากการขัด

 6. การเคลือบพื้นไม้ปาร์เก้ (Finishing)

   - เลือกใช้สารเคลือบที่เหมาะสมกับประเภทของไม้และความต้องการของลูกค้า เช่น น้ำมันเคลือบ ไม้แลคเกอร์ หรือยูรีเทน

   - เคลือบพื้นไม้ปาร์เก้ด้วยสารเคลือบในชั้นบางๆ หลายชั้น โดยเว้นช่วงเวลาให้สารเคลือบแห้งระหว่างแต่ละชั้น

   - ขัดพื้นเบาๆ ระหว่างการเคลือบแต่ละชั้นเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนและความเงางาม

 7. การตรวจสอบคุณภาพ (Quality Inspection) โดยช่างชำนาญการรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้

   - ตรวจสอบความเรียบร้อยและคุณภาพของการขัดและการเคลือบพื้นไม้

   - แก้ไขข้อบกพร่องที่พบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 8. การทำความสะอาดและส่งมอบงาน รับปูปาร์เก้ (Cleaning and Handover)

   - ทำความสะอาดพื้นที่หลังจากการขัดและเคลือบ

   - ส่งมอบงานให้ลูกค้าตรวจสอบและยืนยัน

 9. การดูแลหลังการขาย (After-Sales Service)

   - ให้คำแนะนำในการดูแลรักษาพื้นไม้ปาร์เก้

   - รับประกันงานและบริการหลังการขายในระยะเวลาที่กำหนด

   - พร้อมให้บริการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาตามที่ลูกค้าต้องการ

การแจกแจ้งการทำงานที่เป็นขั้นตอนเพื่อนำเสนอราคาให้กับลูกค้าในลักษณะนี้  ลูกค้าจะมีความรู้สึกมั่นใจในคุณภาพและความเป็นมืออาชีพรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ของเรา  อีกทั้งยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการได้ง่ายขึ้น.

ไม้ปาร์เก้

รับปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้

รับปูปาร์เก้ รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้

เป็นวัสดุปูพื้นชนิดหนึ่งที่ทำจากไม้และมีลักษณะเด่นคือลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ การติดตั้งไม้ปาร์เก้มักจะเป็นการประกอบชิ้นไม้เล็ก ๆ เป็นรูปแบบหรือรูปทรงต่าง ๆ โดยเฉพาะลวดลายที่ซับซ้อนหรือรูปทรงเรขาคณิต 

คุณสมบัติของไม้ปาร์เก้

- ความสวยงาม มีลวดลายและสีสันของไม้ที่หลากหลาย ทำให้พื้นมีความสวยงามและดูหรูหรา

- ความทนทาน  เมื่อมีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง พื้นไม้ปาร์เก้สามารถมีอายุการใช้งานที่ยาวนานความรู้สึกอบอุ่น: พื้นไม้ให้

- ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติเมื่อเทียบกับวัสดุปูพื้นชนิดอื่น ๆ

ประเภทของไม้ปาร์เก้

- ไม้ปาร์เก้ธรรมชาติ (Solid Parquet)ทำจากไม้จริงทั้งหมด มีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถขัดและทำสีใหม่ได้หลายครั้ง

- ไม้ปาร์เก้ประกอบ (Engineered Parquet): ประกอบด้วยชั้นของไม้จริงที่วางอยู่บนฐานไม้ที่มีความแข็งแรงน้อยกว่า มีความทนทานและความเสถียรต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นมากกว่าไม้ปาร์เก้ธรรมชาติ 

- โดยส่วนใหญ่แล้วช่างรับปูปาร์เก้ะให้คำแนะนำที่ดี ว่าบ้านที่อยู่อาศัยของเรานั้นเหมาะกับการใช้ไม้ปาร์เก้ประเภทไหน

ไม้ปาร์เก้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นไม้ที่มีลวดลายสวยงามและคุณสมบัติที่ทนทาน การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้พื้นไม้ปาร์เก้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและคงความสวยงามได้อย่างยาวนาน .

ไม้ที่นิยมนำมาทำไม้ปูปาร์เก้

ไม้ที่นิยมนำมาทำไม้ปูปาร์เก้มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและลักษณะของไม้ที่เหมาะสมกับการใช้งานรับปูปาร์เก้ ส่วนใหญ่แล้วช่างรับปูปาเก้จะแนะนำให้เหมาะกับบ้าน อาคาร สถานที่ที่เหมาะกับการใช้งานให้ลูกค้า ได้แก่:

1. ไม้สัก (Teak): ไม้สักมีความแข็งแรง ทนทาน และมีลายไม้สวยงาม ทนต่อปลวกและแมลง จึงเป็นไม้ที่นิยมนำมาทำปาร์เก้

2. ไม้แดง (Rosewood): ไม้แดงมีความแข็งแรงและทนทานสูง สีของไม้มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ เหมาะกับการใช้ทำปาร์เก้

3. ไม้ตะแบก (Balau): เป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทาน สีออกเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม มีความทนทานต่อการใช้งานได้ดี

4. ไม้ประดู่ (Padauk): มีสีแดงสวยงาม และมีความแข็งแรง ทนต่อการใช้งาน ทำให้เหมาะสมสำหรับการปูพื้นปาร์เก้

5. ไม้โอ๊ค (Oak): เป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทาน สีออกสว่างและลายไม้ชัดเจน นิยมในงานปูพื้นโดยเฉพาะในบ้านที่ต้องการสไตล์คลาสสิกหรือโมเดิร์น

6. ไม้เมเปิ้ล (Maple): เป็นไม้ที่มีความแข็งแรงปานกลาง สีอ่อน ลายไม้ละเอียด เหมาะสำหรับปูพื้นปาร์เก้ที่ต้องการลุคเรียบหรู

ไม้แต่ละชนิดไม้มีข้อดีและลักษณะที่แตกต่างกันไป ซึ่งต้องพิจารณาตามความต้องการใช้งานและงบประมาณในการเลือกใช้ไม้ปูปาร์เก้


ขั้นตอนการนำเสนอราคางาน รับปูปาร์เก้ และ รับขัดพื้นไม้ปาร์เก้

การนำเสนอราคารับปูปาร์เก้และรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้นั้น ในใบเสนอราคาต้องแสดงรายละเอียดให้ชัดเจนและรอบคอบ

การนำเสนอราคารับปูปาร์เก้และรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้นั้น ในใบเสนอราคาต้องแสดงรายละเอียดให้ชัดเจนและรอบคอบ

1. การประเมินหน้างาน (Site Evaluation)

   - เดินทางไปสำรวจหน้างานเพื่อประเมินพื้นที่และสภาพของพื้นไม้

   - เก็บข้อมูลที่จำเป็นเช่น ขนาดพื้นที่, ประเภทของไม้, สภาพพื้นเดิม, และความต้องการพิเศษของลูกค้า

   - ถ่ายรูปและบันทึกรายละเอียดเพื่อใช้ในการประเมินราคา

 2. การคำนวณราคาเบื้องต้น (Preliminary Pricing)

   - ใช้ข้อมูลที่เก็บมาเพื่อคำนวณราคาเบื้องต้น

   - ราคานี้อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดพื้นที่, ประเภทของไม้, ความยากง่ายในการทำงาน, และวัสดุที่ใช้

 3. การจัดทำใบเสนอราคา (Quotation Preparation)

   - จัดทำใบเสนอราคารายละเอียดที่ครอบคลุมทุกองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าแรง, ค่าวัสดุ, และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

   - ระบุเงื่อนไขการชำระเงินและเงื่อนไขการให้บริการ

   - อาจมีการแสดงราคาทั้งในรูปแบบรายชั่วโมง, ตารางเมตร, หรือเป็นแพ็คเกจตามความเหมาะสม

 4. การนำเสนอราคาให้ลูกค้าโดยช่างรับปูปาร์เก้ (Quotation Presentation)

   - นัดหมายกับลูกค้าเพื่ออธิบายรายละเอียดของใบเสนอราคา

   - อธิบายรายละเอียดแต่ละส่วนในใบเสนอราคาอย่างชัดเจน

   - ตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าเกี่ยวกับราคาและบริการ

5. การให้คำแนะนำและข้อเสนอพิเศษ (Consultation and Special Offers)

   - ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุและบริการเสริมที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของลูกค้า

   - อาจเสนอส่วนลดพิเศษหรือแพ็คเกจโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

6. การติดตามผล (Follow-Up)

   - ติดตามลูกค้าเพื่อรับทราบความคิดเห็นและตอบข้อสงสัยเพิ่มเติม

   - ทำการปรับปรุงใบเสนอราคาตามคำขอของลูกค้า หากจำเป็น

7. การยืนยันและทำสัญญา (Confirmation and Contract)

   - เมื่อได้รับการยืนยันจากลูกค้า ทำการจัดทำสัญญาที่ระบุรายละเอียดงานและเงื่อนไขการชำระเงิน

   - ขอให้ลูกค้าเซ็นสัญญาและเก็บสำเนาไว้เป็นหลักฐาน

ข้อเสนอแนะ : การเสนองานรับขัดพื้นไม้ปาร์เก้ หรือ งานรับปูปาร์เก้นั้นจะมีการนำราคาเสนอที่คล้ายๆกัน ดังนั้นต้องระมัดระวังเรื่องรายละเอียดของงาน เช่น เงื่อนไขการชำระเงิน การบริการหลังการขาย ระยะเวลางาน ให้ถึ่ถ้วนก่อนนำเสนอราคาให้ลูกค้า การนำเสนอราคาที่มีรายละเอีดที่ดีมีความละเอียด จะทำให้ธุรกิจ รับปูปาร์เก้ ของคุณได้งาน และเพิ่มความน่าเชื่อ. 


OhmJo_TH
X