งานและบริการของเรา เราบริการรับซื้อของเก่า ชนิดและประเภทต่างๆดังต่อไปนี

รายการสินค้าที่เราบริการรับซื้อในเบื้องต้น

1.รับซื้อแอร์เก่า รับซื้อแอร์มือสอง

2.รับซื้อของเก่ารับซื้อสินค้าสิ่งของเลิกกิจการปิดกิจการร้านอาหารอพาร์ทเม้นท์หอพัก คอนโด ฯลฯ

3.สินค้าของเก่าโรงแรม

4.โต๊ะไม้สักเก่า

5.อุปกรณเครื่องใช้สำนักงาน

6.คอมพิวเตอร์เก่า อุปกรณ์เครื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า

7.เศษเหล็ก

8.ทองแดง

9.อลูมิเนียม

10.สังกะสี

 8.และอื่นๆลูกค้าโทรมาสอบถามก่อนได้

   ทางร้านยังมีบริการรับซื้อถึงที่ประเมินราคาออนไลน์แต่ราคาจะไม่แน่นอนเนื่องจากทางร้านไม่ได้เห็นสินค้าของจริงที่ลูกค้าต้องการจะขาย (เฉพาะสินค้าเลิกกิจการปิดกิจการ)อย่างไรรถเข้าออกสะดวกไหมเป็นต้นเพราะองค์ประกอบเรานี้มีผลต่อราคาทั้งสิ้น.

เรื่องที่ควรรู้กับผู้ที่กำลังอยากจะประอบอาชีพรับซื้อของเก่าใครที่ต้องการเข้าสู่อาชีพนี้ควรมีความรู้เรื่องตลาดของเก่าทั้งรับซื้อและขายออกไป มีความเข้าใจเรื่องสภาพสิ่งของที่จะรับซื้อ และการประเมินราคาอย่างถูกวิธี รวมถึงมีความรู้ในการต่อรองราคาและความสามารถในการเสนอและติดต่อกับลูกค้าอย่างมืออาชีพ และมีความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้ามือสองเพราะบางทีมันอาจมีข้อจำกัดหรือข้อกำหนดที่เราต้องปฏิบัติตาม ต้องมีความรอบคอบในเรื่องธุรกิจให้มาก การบริหารจัดการด้านการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น

1. หลักการและเหตุผลของธุรกิจรับซื้อของเก่า

   - การลดการใช้งานของสินค้าที่มีอยู่อย่างไม่จำเป็น

   - การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสิ่งของทีจะนำมาทิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยลดปริมาณขยะ

   - การสร้างรายได้จากการรับซื้อของเก่าและการนำขายออกไป

2.  ประเภทของสินค้าที่ร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อกัน

   - อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์,อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า, คอมพิวเตอร์, และเครื่องใช้ภายในบ้าน

    - เศษเหล็ก,ลวด,ทองแดง,กระดาษหนังสือ

    -  ขวดแก้วหลังเบียร์

    - กระป๋องประเภทต่างๆ

    - ขวดพลาสติกชนิดและประเภท

    - เศษเหล็กชนิดและประเภทต่างๆ

    - รวมไปถึงสิ่งของภายในบ้านที่ต้องการนำไปทิ้ง ฯลฯ

3. กระบวนการ การทำธุรกิจรับซื้อของเก่า

   - การประเมินค่าของสินค้าที่มีอยู่โดยพิจารณาสภาพของสินค้า, อายุ, และคุณค่า

   - การเสนอราคาแก่ลูกค้าและการต่อรองราคา

   - การจัดการเรื่องภาษีและการนำสินค้ามาขายต่อ

4. การตลาดและการโฆษณา

   - การใช้สื่อต่างๆ เช่น เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, หรือโฆษณาทางทีวี

   - การสร้างภาพลักษณ์บริษัทและการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้า

5. การจัดการความเสี่ยง

   - การป้องกันการเกิดความเสี่ยงในการทำธุรกิจรับซื้อของเก่า เช่น การรับซื้อของเก่าที่มีปัญหาทางกฎหมายหรือความเสี่ยงต่อสุขภาพ

 6. การบริการลูกค้าในกรณีที่เรามีสินค้าออกไป

   - การให้คำแนะนำและบริการหลังการขาย เช่น การจัดส่งสินค้าหรือการบริการซ่อมบำรุง

   - การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

 7. การเทรนพนักงาน

   - การฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้และความเข้าใจที่เพียงพอเกี่ยวกับสินค้าที่รับซื้อเข้ามา

 8. การวิเคราะห์และการปรับปรุง

   - การวิเคราะห์ผลตอบรับจากลูกค้า และการปรับปรุงในเรื่องต่างที่เคยเกิดปัญหามาแล้ว

   ฉะนั้นผู้ที่ต้องการจะประกอบอาชีพรับซื้อของเก่าควรศีกษาข้อมูลความรู้เป็นอย่างดีก่อนที่จะตัดสินใจลงมือทำ.

ร้านรับซื้อของเก่ามักจะมีข้อกำหนดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับประเภทสินค้าที่ไม่รับซื้อ เพื่อป้องกันปัญหาทางด้านกฎหมายและความเสี่ยงทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นตามมา ต่อไปนี้คือประเภทสินค้าที่ร้านรับซื้อของเก่ามักจะไม่รับซื้อ.

- สินค้าผิดกฏหมายทุกชนิด

- สินค้าที่ไม่ทราบแหล่งที่มา เช่น ซากรถยนต์ ซากรถจักรยายยนต์ ซากเรือเหล็กระวาง ฯลฯ

- มิเตอร์ไไฟ้า

- ชิ้นส่วนต่างๆที่ได้มาจากโครงสร้างเสาจ่ายไฟฟ้้าแรงสูง เช่น น๊อต สกรู ชิ้นส่วนเหล็กประกอบตัวเสา สายไฟ เป็นต้น

- ท่อประปาเหล็ก ฝาเหล็กปิดท่อประปา

- ชิ้นส่วนสะพานเหล็ก (ต้องทราบที่มาที่ไปถึงจะรับซื้อ)

- ถังแก๊สทุกชนิดทุกประเภททุกเครื่องหมายการค้า

- เหล็กขึื้นรูปประเภทต่างๆ ที่พร้อมจะใช้งานได้ทันที

ข้อแนะนำเพิ่มเติม:ลูกค้าที่ต้องการนำสิ่งของเครื่องใช้มาขายให้กับทางร้านรับซื้อของเก่าควรโทรสอบถามก่อนว่า สิ่งของที่จะนำมาขายนั้นทางร้านรับซื้อหรือไม่ หรือถ้าจะให้ดีถ้ามี Line Id แอดเพื่อนถ่ายรูปส่งไปให้ดูก็จะไปการดี.

การรับซื้อของเก่า มีความเสี่ยงหลายประการที่เราต้องพิจารณาก่อนการรับซื้อเขามา เช่น ความเสี่ยงทางด้านกฎหมาย ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงทางการเงิน และความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เป็นต้น นี่คือรายละเอียดของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:

1. ความเสี่ยงทางกฎหมาย

- การละเมิดกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ  เช่น การจัดการกับของเสียอันตรายโดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย

-  ลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา  การรับซื้อของเก่าที่เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาอาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายว่าด้วยการรับซื้อของเก่า

2. ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม

- มลพิษทางน้ำและดิน การจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำและดิน 

เกิดปัญหาทางกฎหมายได้

- มลพิษทางอากาศ การเผาหรือการกำจัดของเสียที่ไม่ถูกวิธีอาจปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายสู่บรรยากาศ

3. ความเสี่ยงทางการเงิน

- ความผันผวนของตลาดในด้านราคา เช่น โลหะ กระดาษ หรือพลาสติก อาจมีความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจและความต้องการของตลาด

- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การบริหารจัดการของเก่าต้องมีการลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เครื่องคัดแยก เครื่องอัดหรือเครื่องบด ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูง

4. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

- อุบัติเหตุในการทำงาน: เช่น การบาดเจ็บจากการจัดการกับของเก่าที่มีขอบคม การทำงานกับเครื่องจักร หรือการยกของหนัก

- สารเคมีอันตราย การจัดการกับของเก่าที่มีสารเคมีอันตรายเช่นแบตเตอรี่ หลอดไฟ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารพิษ

5. ความเสี่ยงด้านสังคม

- การรับรู้ของสังคม การดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ปลอดภัยอาจทำให้สังคมมองว่าธุรกิจนั้นไม่มีความรับผิดชอบ

6. ความเสี่ยงด้านเทคนิค

- การคัดแยกและการรีไซเคิลที่ไม่เหมาะสม การไม่มีเทคโนโลยีหรือกระบวนการที่เหมาะสมในการคัดแยกและรีไซเคิลของเก่าอาจทำให้สูญเสียทรัพยากรที่มีค่าและเพิ่มภาระให้กับสิ่งแวดล้อม

วิธีการลดความเสี่ยง

- การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากล

- การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน

- สามารถประเมินราคาข้าวของเครื่องใช้ที่รับซื้อเข้ามา ว่าถ้าขายออกไปจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน เพราะสินค้าข้าวของบ้างประเภทมีราคาผันผวนตลอด เช่น เหล็ก ทองแดง ฯฃฯ

การทำธุรกิจรับซื้อของเก่าอย่างยั่งยืนต้องมีการวางแผนและการจัดการที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

กระบวนการรีไซเคิลขวดแก้วมีขั้นตอนหลักดังนี้:

1. **การเก็บรวบรวมขวดแก้ว**: ขวดแก้วที่ถูกใช้งานแล้วจะถูกเก็บรวบรวมจากแหล่งต่าง ๆ เช่น บ้านเรือน ร้านค้า หรือศูนย์รีไซเคิล

2. **การคัดแยกและทำความสะอาด**: ขวดแก้วจะถูกคัดแยกตามสี (เช่น ใส, เขียว, น้ำตาล) และถูกทำความสะอาดเพื่อล้างสิ่งสกปรกและฉลากที่ติดอยู่

3. **การบดขวดแก้ว**: ขวดแก้วที่ผ่านการคัดแยกจะถูกนำมาบดเป็นเศษแก้วเล็ก ๆ เรียกว่า **cullet** เพื่อเตรียมสำหรับกระบวนการหลอม

4. **การหลอมแก้ว**: เศษแก้วจะถูกนำไปหลอมในเตาอุณหภูมิสูงเพื่อเปลี่ยนเป็นของเหลว จากนั้นจึงนำไปหล่อเป็นรูปทรงใหม่ตามต้องการ เช่น ขวดใหม่หรือภาชนะต่าง ๆ

5. **การทำผลิตภัณฑ์ใหม่**: เมื่อแก้วหลอมเสร็จแล้ว จะถูกนำไปหล่อและขึ้นรูปตามรูปแบบที่ต้องการ เช่น ขวดใหม่ กระจก หรือผลิตภัณฑ์แก้วอื่น ๆ

6. **การตรวจสอบคุณภาพ**: ผลิตภัณฑ์แก้วที่ทำจากการรีไซเคิลจะถูกตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้มั่นใจว่ามีความคงทนและปลอดภัยต่อการใช้งาน

กระบวนการรีไซเคิลขวดแก้วนี้ช่วยลดการใช้วัตถุดิบใหม่ ลดพลังงานในการผลิตแก้วใหม่ และลดขยะที่เกิดจากขวดแก้วที่ถูกทิ้ง